วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2564

จริงหรือปลอม? ถุงไนกี้ยอดฮิตจากเกาหลี (size S)

 


NIKE Reusable shopping bag หรือที่เรียกกันถุงไนกี้ เป็นถุงรียูชที่ทำจากพลาสติกกันน้ำ มีขายที่ช็อปในเกาหลีเท่านั้น 

ตัววัสดุจะคล้ายๆถุงikeaแต่จะหนากว่าค่ะ

พรีกันถล่มทลายจากราคาถุงเป็นหน่วยบาทก็แค่ไม่กี่สิบบาท จนอัพราคากันถึง ฿800 ก็มี แต่ราคาปกติที่เห็นพรีทั่วๆไปจะราวๆ ฿350-฿450 แล้วแต่ไซส์

เราอาจจะมาช้าไปเพราะตอนแรกเราพรีกับร้านนึงไว้รอสองสามเดือนสรุปไม่ได้ของซะงั้น ด้วยความมอหอเลยควานหาใหญ่เลยจนมาได้จากร้านพรีของเกาหลีร้านนึงในทวิตได้มาที่ราคา ฿350 ไซส์S

แล้วมีวันนึงเราเปิดในแอพส้มเจอขายกันที่ ฿190-฿350 หือออ มันถูกจนงง หรือว่าราคาตลาดลงแล้ว (จริงๆราคานี้ก็ไม่ผิดแต่มันสวนทางราคาตลาดตอนนี้😂) ด้วยความสงสัยก็เลยเลือกมาหนึ่งร้าน เค้าเขียนไว้ว่าของแท้(ของแท้จากไหน-.-) เลยกดมาลองดู ได้มาในราคา ฿265 ไซส์S (อุตส่าห์ไม่เลือกร้านร้อยกว่านะ 🤣🤣 มีเขียนว่าของแท้ด้วย)(กลับไปเปิดดูอีกรอบร้านนี้ลบคำว่าของแท้ไปแล้ว 😑)

มาเริ่มเปรียบเทียบกันค่ะ

ทั้งคู่เป็นไซส์ S นะคะ

ไซส์เดียวกันขนาดไม่เท่ากัน ของเกาหลีแจ้งขนาดไว้ว่า 38x30 

ของปลอมน้านนน จะไซส์เอสก็ไม่ใช่ เอ็มก็ไม่ใช่เพราะยังเล็กกว่าของจริงเมื่อเทียบกับขนาดที่ทางช็อปแจ้ง (เราสั่งไซส์เอ็มจากช็อปเกาหลีมาด้วยแต่ต้องพรีถ้าได้มาแล้วจะมาเปรียบเทียบกับของปลอมอีกทีค่ะ)

ก้นกระเป๋าของจริงจะหนาและใหญ่กว่า เวลาตั้งจะเป็นทรงกว่าค่ะ และจับตั้งง่ายกว่าด้วย

ข้างในไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ qr code ก็ไม่ช่วยอะไรเพราะสแกนเข้าเว็บnike หน้า move to zero ได้เหมือนกัน




ส่วนเนื้อกระเป๋าเราจับดูแล้วไม่ค่อยรู้สึกแตกต่างกันค่ะให้ความรู้สึกคล้ายกันเลย 


อยากให้ทุกคนระวังไว้ด้วยนะคะเผื่อซื้อเพราะหวังอยากได้ของแท้จะเฟลเอา ร้านในแอพส้มเกือบทุกร้านจะไม่โพสภาพของจริงกันเลยค่ะ จะเอาภาพในทวิตมาลงกันซะส่วนใหญ่(ซึ่งมันเป็นของแท้จากช็อปเกาหลีจริงๆ)ต้องอาศัยดูภาพจากคนรีวิวค่ะ ถ้าราคาถูกเกินก็สงสัยไว้ก่อนว่าไม่น่าจะมาจากเกาหลีแล้ว

Ps. ใครที่พรีจากร้านในทวิตที่เค้าพรีของจากเกาหลีอยู่แล้วก็สบายใจได้ค่ะ เท่าที่เราดูมาของแท้จากช็อปเกาหลีหมด 

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

เนื่องจากเราตอบคอมเม้นท์ไม่ได้ค่ะ

Ps. เราตอบคอมเม้นท์ไม่ได้เลยค่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เอาเป็นว่ามีใครอยากถามอะไรสามารถแอดไลน์เรามาได้นะคะ หรือถ้าสะดวกช่องทางไหนเม้นท์ทิ้งไว้ก็ได้ค่ะ


มีสองคอมเม้นท์มาถามเราใน [Review] Nike tech hip pack เราพยายามตอบเท่าไหร่ก็ไม่ได้เลยขอตอบในนี้แทนนะคะ

คอมเม้นท์แรก:: ตอนนี้ในเว็บไนกี้ยังมีรุ่นที่เรารีวิวอยู่ค่ะ แต่จะเป็นสีอื่นไปแล้วค่ะ คลิก

คอนเม้นท์สอง:: ตอนนี้คือสีขาวSold out ทั่วโลกเลยค่ะ ไม่สามารถหาได้แล้วนอกจากจะมีคนมาปล่อยมือสองค่ะ

วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

[2nd] Trip to Japan 2019 [Day-5] & สรุปค่าใช้จ่าย

Day - 5
2019 / 12 / 19


เนื่องจากเรากลับไฟลท์เช้า 09:15 น. เราเลยไปจองตั๋วรถไฟ Keisei Skyliner รอบแรก 05:40 น.ไว้ตั้งแต่วันแรก วันกลับเราจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาต่อแถวซื้อตั๋วอีก


เมื่อวานเราก็ได้นัดพ่อกับแม่ไว้ว่าเจอกันที่ล็อบบี้ตอนตี5 หลังจากนั้นก็จะขึ้นรถไฟใต้ดินจากสถานีInaricho ไป Ueno

ตั้งนาฬิกาปลุกตี4 ปกติเราก็จะเรียกให้น้องตื่นไปอาบน้ำก่อน เราก็หลับต่ออีกซักแป๊บพอน้องเสร็จเราก็เข้าห้องน้ำต่อเป็นแบบนี้มาตลอด 4 วัน เราปลุกน้องเสร็จเราก็นอนต่อด้วยความเคยชิน สะดุ้งตื่นอีกทีเพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์สั่นเป็นพ่อโทรมาว่ารออยู่ที่ล็อบบี้แล้วนะ เราก็คิดว่าคงตีสี่ครึ่งอะไรประมาณนี้เพราะรู้สึกว่าหลับไปแป๊บเดียว

วางสายปุ๊บดูนาฬิกา ตี5:04 น. ตื่นเลยทีนี้ รีบปลุกน้องสายแล้วๆๆ คือเปลี่ยนชุดกันเดี๋ยวนั้นเลย หน้าก็ไม่ได้ล้าง ไม่ได้แต่งด้วย รีบโกยของเข้ากระเป๋าดีที่เก็บไปเมื่อคืนแล้วเหลือแต่พวกเครื่องสำอางและแชมพู ครีมอาบน้ำอะไรอีกนิดหน่อย เราแบบไม่สนแล้วโกยเครื่องสำอางใส่กระเป๋าแล้วรีบออกจากห้องมาเลย คือเก็บไปจะร้องไห้ไปคิดว่าไม่ทันรถไฟแน่ๆอ่ะ

รีบลงไปล็อบบี้เช็คเอ้าท์รีบลากกระเป๋าออกไปสถานีเลย ไปยืนรอรถไฟใต้ดินเขาประกาศว่ารถไฟจะมาตอนตี5:27 น. นี่แบบจะร้องไห้ ไหนจะต้องเดินไปที่สถานีKeisei อีก ไม่ทันแน่ๆอ่ะ 

ตี5:27 น. รถไฟใต้ดินมา พอไปถึงUenoเราก็รีบกึ่งวิ่งกึ่้งเดินไปสถานีKeisei รองเท้าก็กัดเจ็บมากแต่ตอนนั้นไม่สนใจแล้ว วิ่งไปหายใจทางปากไปอากาศก็เย็น คอแห้งเลยทำให้จะอ้วกตลอด เหนื่อยมาก บอกกับแม่ว่าหนูไม่ไหวแล้วๆๆ 55555 แต่ก็นะต้องลากตัวเองไปให้ได้

พอไปถึงเห็นSkylinerจอดอยู่แทบจะร้อง เรารอดแล้วววว พอได้ที่นั่งเปิดมือถือดูนาฬิกา ตี5:35 น. โล่งอกโล่งใจ คือได้มานั่งอยู่ในรถไฟก็โล่งใจไม่คิดอะไรแล้ว ทันเช็คอินแน่นอน 

แต่วันไหนที่มันไม่ใช่วันของเรามันก็จะไม่ใช่จริงๆนะ 6:24 น. ถึงสนามบินนาริตะ T2 เดินออกมาจากรถไฟแล้วมาถึงที่จะสอดตั๋วคืน น้องก็บอกมาว่าลืมกระเป๋าไว้บนรถไฟ!! เลยต้องรีบไปติดต่อจนท.เขาก็สอบถามลักษณะกระเป๋าสีอะไร ข้างในมีอะไรบ้าง วางไว้ที่ไหน อะไรประมาณนี้ น้องก็บอกๆๆไป จนท.ก็โทรติดต่อ ตอนนั้นรถไฟต้องไปT1 ต่อ จนท.เลยบอกให้ไปเอาที่ T1 เขาก็พาน้องเราไปส่วนเรากับพ่อแม่ก็ยืนรออยู่แถวนั้น

รอประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงน้องก็มาพร้อมกระเป๋า เราก็รีบเดินๆๆไปเช็คอิน เราเช็คอินออนไลน์มาแล้วแถวเลยไม่ยาวมาก

หลังจากเช็คอินเสร็จแล้วก็ไปเจอกับแถวอันยาวเหยียดที่จุดแสกนกระเป๋า กว่าจะผ่านจุดนี้ไปได้ก็ใช้เวลาพอสมควรเหมือนกัน มาถึงต้องผ่านตม.ดีหน่อยที่เป็นเครื่องให้เราไปแสกนพาสปอร์ตเองเลยรวดเร็ว

พอเสร็จหมดแล้วก็ได้เวลาไปซื้อขนมทั้งกินเองและเป็นของฝาก เสร็จแล้วก็ไปนั่งรถที่เกท ณ ตอนนั้นเป็ยเวลา 8:49 น. กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้บอกเลยว่าเหนื่อยมากกกก เหนื่อยกว่า 4 วันที่ผ่านมาอีก

เครื่องบินที่จะพาเรากลับไทย

ได้กลับบ้านแล้วววว พอขึ้นเครื่องก็หลับเลยสะดุ้งตื่นอีกทีแอร์ฯมาแจกอาหารแล้ว

อาหารที่เราได้สั่งของไว้ล่วงหน้า ของพ่อแม่น้องเป็นกุ้งอบวุ้นเส้น แอบชิมไปนิดหนึ่งอร่อยดีเหมือนกัน

ส่วนของเราเป็นกะเพราไก่หม่อมหน่อย ครั้งที่แล้วสั่งเมนูนี้ติดใจมาก หลังจากกินอาหารญี่ปุ่นมาตลอด4วัน กะเพราเหมาะที่จะเป็นเมนูตอนขากลับมากๆ คิดถึงอาหารไทยสุด และของเรามาพร้อมกับชาไทยไข่มุกบุก อร่อยสมคำล่ำลือ ตัวชาอร่อยมากกก เข้มถึงรสชา ตัวไข่มุกบุกก็หนึบๆ

กินเสร็จส่วนใหญ่เราก็หลับเนื่องจากเหนื่อยล้าสะสม พอเครื่องใกล้ลงเราถึงได้รู้ว่าเพราะลมแรงเลยทำให้เทคออฟได้ช้ามันเลยเลทไปประมาณชั่วโมง

15:00 น. แลนด์แล้วจ้าา ข่าวดีคือถึงโดยสวัสดิภาพ ข่าวร้ายคือคงจะตกเครื่องกลับเชียงใหม่แล้วล่ะ จากกำหนดเดิมต้องถึงดอนเมือง 14:00 และเรามีต่อเครื่องไปเชียงใหม่ 16:30 น. (กระซิบ)จริงๆถ้าเป็นเราเองเราไม่เลือกไฟลท์ต่อ 16:30 น.เด็ดขาด แต่ก็นะเรื่องมันยาวเราเถียงสู้ไม่ได้ 55555

จากนั้นก็เดินๆๆไปหาตม.

แล้วคือกว่าจะเดิน กว่าจะผ่านตม. กว่าจะรับกระเป๋าทำไรเสร็จนู่นนี่นั่นก็เป็นอันตกเครื่องแน่นอนแล้ว ทำอะไรไม่ได้แล้วได้แต่ซื้อตั๋วใหม่

เราก็เปิดเว็บเลยทั้งนกแอร์ ไลอ้อนแอร์ แอร์เอเชีย สรุปว่าเราก็มาได้แอร์เอเชียเพราะสองสายการบินนั้นเต็มหมดแล้ว และนกแอร์ไม่มีไฟลท์หลังสี่โมงเย็นแล้ว

ซื้อตั๋วใหม่ ราคาใหม่ สะพรึงกว่าเดิม จาก 4,396 บาท เป็น 23,737 บาทจะเป็นลม

แต่เราก็ทำไรไม่ได้ก็ต้องยอมรับสภาพไป เพราะก่อนซื้อไฟลท์สี่โมงนั่นได้บอกไปเรียบร้อยแล้วว่าถ้ามาไม่ทันต้องซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่แพงกว่าเดิมเยอะมาก ต้องยอมรับให้ได้นะ ...ก็นั่นแหละ จัดการซื้อตั๋วใหม่ ได้ไฟลท์สุดท้ายเลย 20:20 น. ตอนนั้นเป็นเวลาสี่โมงกว่าๆ เลยไปหาอะไรกินฆ่าเวลา

นั่งเล่นนู่นนี่นั่นไปเรื่อยในที่สุดก็ได้กลับบ้านแล้วจ้าา

บ๊ายบายกรุงเทพ


จบทริป


===========================

สรุปค่าใช้จ่าย

15-19 ธันวาคม 2563 ( 5วัน 4คืน)

(ราคาทุกอย่างรวม 4 คนแล้ว)

1. ค่าตั๋วเครื่องบิน CNX-DMK (Thailionair)               =     4,810 บาท 
2. ค่าตั๋วเครื่องบิน DMK-NRT-DMK (Airasia X)        =     54,678 บาท (ที่นั่งโซนเงียบทั้ง 2 ขา)
3. ค่าตั๋วเครื่องบิน DMK-CNX (Nokair)                      =    4,396 บาท
4. ค่าตั๋วเครื่องบิน DMK-CNX (Airasia) (ซื้อใหม่)      =    23,737 บาท
5. ค่าโปรเน็ตคนละ 299 บาท                                        =   1,196 บาท
6. ค่าประกัน (ทิพยประกันภัย)                                      =    1,300 บาท
7. Pocket Money                                                          =    148,250 บาท (ค่าโรงแรมจ่ายบัตรเครดิต)

ปล.ค่ารถไฟ ค่าเข้าที่ต่างๆ รวมอยู่ใน Pocket Money หมดเลย


รวมทั้งหมด 238,367 บาท
เหลือกลับมา 66,049 เยน (18,183 บาท)

วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2563

[2nd] Trip to Japan 2019 [Day-4]

Day - 4
2019 / 12 / 18


วันนี้ออกจากโรงแรมสายหน่อยแปดโมงเช้าเลย ไปตลาดปลาTsukijiกัน

ทางออก A1 เลี้ยวขวาแล้วตรงไปเรื่อยๆเลย ตลาดอยู่ทางขวาคนเยอะๆ ร้านขายของเยอะๆ

เดินเข้าไปได้นิดเดียวก็ไปโดนที่ร้านนี้เลย ร้านนี้เหมือนมีทุกมุมตลาด เดินไปมุมไหนก็เจอ





แค่ร้านแรกก็โดนไปหลายเยนเลยทีเดียว แต่อร่อยมากกกกกก ปูหวานอร่อยสุดๆ ส่วนกุ้งเราว่ามันสุกเกินไปเลยทำให้แข็งไปหน่อย อย่างอื่นก็โอเคกินได้





กินของทะเลไปแล้วมากินเนื้อต่อ วากิววว เลือกไม้ละ 4000 เยนมาลอง อร่อยดีแต่มันเยอะไปหน่อย นุ่มๆ ฉ่ำๆ ไม่เหนียว



ร้านข้างๆเป็นไดฟุกุ(รึเปล่า) ก็ไปโดนมาอีกกล่อง


เดินๆไปก็ไปเจอกับร้านปิ้งย่างเสียบไม้อีกแล้ว 



เนื่องจากเราอิ่มเลยกินปลาหมึกไปชิ้นนึง อร่อยดีเหมือนกัน

คือจะออกจากที่นี่อยู่แล้วววว ไปเจอร้านชานมไข่มุกอีก ไม่กินก็ไม่ได้ละป่ะ 555555

เลยจัดบราวน์ชูก้ากับน้องมาคนละแก้ว ชอบที่ไม่หวานเกินไปอร่อยมาก

กินกันเสร็จแล้วไปที่ต่อไปกันเลย กินกันต่อที่ Luke's Lobster 

จากสถานี Meiji-jingumae มาลงที่สถานี Omote-sando ทางออก A2

เดินขึ้นมาแล้วจะเจอกับ Apple Store ขวามือเลย

จากนั้นก็ข้ามถนน แล้วเดินตรงตามแผนที่มาเรื่อยๆเลย







ถึงแล้วววว มาทีไรก็ไม่ค่อยมีคนตลอดเลยไม่รู้เราโชคดีหรืออะไร ไปดูรีวิวกี่รีวิวก็แถวยาวกันตลอด

เนื่องจากมากี่รอบๆ ก็สั่งแต่ lobster roll ตลอด รอบนี้เปลี่ยนบ้าง เอาเป็น Trio สามอย่างเลย 1980 เยน (ไม่รวมvat) แต่ขนมปังจะเป็นแบบตัดครึ่ง ก็โอเคปริมาณพอเหมาะไม่เยอะไม่น้อยเกินไป

ยังไงก็ล็อตเตอร์เดอะเบสสุด รองลงมาก็ปู เนื้อปูแน่นๆ อร่อยมาก จะมีซอสเปรี้ยวๆอะไรสักอย่างอยู่แต่อร่อยดี ส่วนกุ้งขาวก็ธรรมดาเฉยๆ ถ้ามาอีกรอบก็คงสั่งล็อตเตอร์เหมือนเดิม

กินเสร็จแล้วไปเดินย่อยกัน ไปศาลเจ้าเมจิ เรียกได้ว่าเดินถึงศาลเจ้าแล้วต้องหิวอีกรอบอ่ะ เหนื่อยมากกก




เดินจนเมื่อยกันไปข้างนึงก็ถึงแล้ววว 

ภายในกว้างขวางสวยงาม คนไม่ค่อยเยอะ








ส่วนตัวไม่ค่อยมีความรู้ทางนี้เท่าไหร่ ไปที่ที่เราถนัดกันเถอะ 

หลังจากเดินและไปไหว้ขอพรกันแล้ว ก็เดินกลับมาที่ Takeshita Dori วันนี้คนถือว่าไม่เยอะมากนะแต่ก็เยอะ ถือว่าเดินช็อปได้สบายไม่เบียดๆกันเดิน



มาที่นี่พลาดไม่ได้ต้องกินเครปปป

เท่าที่ดูแล้วสายเลือกมากอย่างเรา กินได้ไส้เดียวคือวิปครีมล้วนอีกแล้ว


แต่อร่อยมากนะ ชอบเลย ยืนกินกันจนหมดก็เดินดูนู่นดูนี่ต่อ ไปเจอกับร้านชานมไข่มุก เขาทำไข่มุกให้ดูกันหน้าร้านเลย

มีคนต่อคิวกันประมาณหนึ่งขดแต่เขาทำเร็วดีแม่ก็อยากกินก็เลยอ่ะ ไปต่อคิว

ถ้าใครไม่ชอบหวานคือกินได้เลย สำหรับเราคืออร่อยมาก นมจะใช้เป็นนมจืดและใช้ความหวานของborwn sugar มุกจะนิ่มๆเหนียวๆ อร่อยใช้ได้เลย

กินเสร็จจากนั้นก็เดินๆๆ ไปจนสุดถนนจนถึง New balance ก็เดินไปขึ้นซับเวย์ไป Shibuya 

ใช้เวลาแค่ไม่ถึง 5 นาทีเพราะมันแค่สถานีเดียว เราก็อยากใช้พาสให้มันคุ้มๆเดินก็ปวดขา 5555 และแล้วเราก็มาโผล่ที่ฮาจิโกะ




มาถึงจุดประสงค์หลักของทริปนี้ของเรากันแล้ว คืออออ Tower Record จ้าาา มาเพื่อซื้อ season's greetings เลย


สมใจอยากละ

รอบนี้ไปลองกิน MK ญี่ปุ่นกัน เนื่องจากหิวมากเลยไม่ได้ถ่ายอะไรเลย ภาพนี้เป็นภาพจากกล้องไอแพดที่แม่ถ่ายบางภาพมุมอาจจะแปลกๆนิดนึง

อันนี้เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ซึ่งก็จำราคาไม่ได้แล้วว่าคนละกี่เยน เราเลือกแบบสุกี้อย่างเดียว ถ้าจำไม่ผิดมันจะมี สุกี้+ติ่มซำ / สุกี้+ซูชิ อะไรประมาณนี้

เอ็มเคจะอยู่ที่ชั้น 3

ร้านกว้างดี มีจอให้กดสั่งเหมือนที่ไทยเลย

ซุปเราเลือกซุปดำกับออริจินอลมา





โดยรวมแล้วดี อร่อยใช้ได้เลย ลูกชิ้นกุ้งมีความรู้สึกว่าแตกต่างกับของไทย ที่นี่อร่อยกว่ามากก

เดินย่อยนิดๆหน่อยๆ ก็กลับโรงแรมไปเก็บของเตรียมตัวกลับบ้านนน



จบ Day-4