Day - 3
11 / 06 / 2018
Tsukiji Market - Apple Store @Omote-Sando - Luke's Lobster - Takeshita Street - Shibuya - SMTTokyo
วันนี้เป็นวันเที่ยววันแรกของเราและได้เริ่มใช้ Tokyo subway pass
วิธีใช้คือสอดใบนี้เข้าเครื่องแล้วดึงออก ด้านหลังก็จะพิมพ์วันที่และเวลาที่บัตรจะหมดอายุด้วย
ส่วนเรื่องแผนที่รถไฟต่างๆในญี่ปุ่น เราใช้แอพ World Transit Maps แอพนี้ดีมากกกกกก คือมันดูได้ทุกสายทุกชนิดรถไฟเลยก็ว่าได้
เปิดเข้ามาก็จะเจอกับแผนที่รถไฟของประเทศญี่ปุ่น
เลือกภูมิภาคได้ด้วย
วิธีใช้ก็ง่ายๆเลย วันนี้เราเริ่มต้นด้วยการไปตลาดปลาTsukiji จะต้องไปลงที่สถานี Tsukijishijo
กดที่เครื่องหมายค้นหาแล้วใส่สถานีต้นทาง ในที่นี้สถานีต้นทางของเราคือสถานี Tawaramachi
จากนั้นก็กดที่เครื่องหมาย +
แล้วก็กดที่เครื่องหมายค้นหาอีกรอบ พิมพ์สถานีปลายทาง เสร็จแล้วก็กดที่เครื่องหมาย + เหมือนเดิม
เสร็จแล้วกดที่รูปรถไฟ
ก็จะมี 4 วิธีให้เราเลือกไป เราโอเควิธีไหนก็ไปตามนั้นเลย ใช้ง่ายมากๆ
พอถึงสถานีTsukijishijoแล้ว ไปที่ทางออก A1 ออกจากสถานีแล้วก็เลี้ยวขวา เดินมาเรื่อยๆ จะได้กลิ่นคาวปลาเลย 55555 แสดงว่าถึงแล้ว
เดินเข้ามาก็มาเจอกับร้านไข่หวานเสียบไม้ เห็นรีวิวเยอะเหมือนกันเลยลองซื้อมากินดู มีตั้งหลายแบบนะแต่ไม่รู้อะไรเป็นแบบไหน เลยเอาแบบธรรมดามา กัดเข้าไปคำแรกร้อนมากควันขึ้นเลย กินแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่แนวเราเลย หวานมากกก พะอืดพะอมกิน คือเราไม่ชอบกินไข่หวานๆ แบบนี้เลยอ่ะ มันหวานกว่าที่เราคิดไปหน่อย ในความคิดคือมีรสชาติเค็มๆแซมมาหน่อยไรงี้
เดินดูนู่นดูนี่ไปนิดหน่อย เดินวันฝนตกนี่มันไม่สนุกเลย ทางแคบแล้วต้องคอยมาหลบร่มกันอีก ร่มทิ่มตาอีก เฉอะแฉะอีก โอ๊ยยย สารพัด สรุปว่าไปที่อื่นดีกว่า
เดินกลับไปที่สถานี Tsukijishijo ที่ต่อไปที่เราจะไปคือ Apple Store
ออกทางออก A2 ออกมาปุ๊บหันขวาก็เจอ Apple Store เลย
เดินดูโน่นดูนี่ไปเรื่อยๆ จุดประสงค์ของเราคือมาซื้อ airpods จ้า ถูกกว่าไทยเยอะอยู่นะ ที่นี่ 16,800 เยน ประมาณ 4,900 บาท คือรอมาซื้อที่ญี่ปุ่นโดยเฉพาะเลยเนี่ย แล้วก็จะซื้อให้น้องอีกอันด้วย น้องก็ฝากซื้อของมาอีกสองสามอย่าง คิดค่าเสียหาย เกือบล้มละลายเลย 55555
ไปโปรแกรมต่อไปเลย ไปกินล็อบสเตอร์~~~~~~ จากแอปเปิ้ลสโตร์เดินไปไม่ไกล
ตรงงงงไปเรื่อยๆ เข้าซอยเล็กๆ ซ้ายมือตาม google map ไป แล้วก็จะเจอร้าน Luke's Lobster เห็นตามรีวิวนี่กว่าเขาจะได้กินกันต้องต่อแถวยาวเป็นกิโล สงสัยเพราะฝนตกคนเลยไม่มี เราก็โชคดีไป
ที่เราสั่งมาคือ Lobster roll (regular) อร่อยมากกก เนื้อนุ่ม หวาน ฉ่ำ ขนมปังนี่กรอบๆ นุ่มๆ บอกไม่ถูก แอบมีรสชาติเนยนิดๆ โดยรวมแล้วคืออร่อยมาก อยากซื้อกลับไปให้แม่กินเลย มีปู มีกุ้งอีกนะ แต่นี่อยากกินล็อบเตอร์ที่สุดละ
Lobster roll (regular) 980 เยน + tax 78 เยน = 1,058 เยน คุ้ม!
คือตอนนี้อิ่มมากแล้วมากๆเลยด้วย ไม่รู้เป็นไรเวลาอยู่นอกบ้านทีไรเราจะกินได้น้อยมาก ที่บ้านนี่เรียกได้ว่ากินไม่หยุดอ่ะ ออกนอกบ้านทีไรเป็นงี้ทุกที คือกว่าจะกินหมดนี่คือต้องรอให้ย่อยละค่อยกินต่อ 55555
พอกินเสร็จแล้วก็เดินไปTakeshita Street จากนี่เดินไปไม่ไกล ผ่านสถานี Harajuku มาแป๊บเดียวก็ถึงเลย
สถานี Harajuku สวยมากเลย
แล้วก็อีกนั่นแหละร่มคืออุปสรรคในการช็อปของเรา -.- แต่ด้วยความที่เราตั้งมั่นไว้ว่าจะต้องซื้อรองเท้าให้ได้เพราะคู่นี่ใส่อยู่นี่เน่ามากก เปียกแฉะไปหมด
ระหว่างทางเจอช็อปรองเท้าก็แวะดูมาเรื่อยๆ ไม่ถูกใจเลยซักที
เลยตกลงว่าจะไปดู New balance แล้วช็อปคืออยู่นู่นนนนนน ท้ายถนนเลย แต่ยังไงมันก็ต้องไป
เดินผ่านร้านเครปคือน่ากินมาก แต่นี่อิ่มจากล็อบเตอร์ยังไม่หาย ไว้ค่อยมากินอีกรอบ เดินผ่านร้านAngels Heart เห็นชานมไข่มุก ขอชิมหน่อยสิชานมไข่มุกญี่ปุ่นจะอร่อยมั้ย
เราว่าจืดไปหน่อย น้ำแข็งน้อยเลยไม่ค่อยเย็น
เดินเลาะไปเรื่อยๆ จนถึง New balance ได้เวลาเปลี่ยนคู่ใหม่แล้ววววว
เราได้มาคนละคู่กับน้อง เสียหายไปเยอะเลย -.-
ถุงใหญ่เลยทีเดียว
จากนั้นเดินกลับไปที่สถานี Harajuku เพื่อไป Shibuya ขึ้น JR สาย Yamanote ลงที่สถานีชิบูย่า สำหรับเส้นนี้ต้องใช้บัตร suica
จาก Harajuku ไป Shibuya ไม่ไกลเลย สถานีเดียวถึง -.- ใช้เวลา 3 นาทีแต่ด้วยความที่ไหนๆเราก็ซื้อบัตรsuicaมาแล้วก็ใช้ให้มันคุ้มๆ
ฝนก็ยังไม่หยุดเลยนะ ไม่ค่อยได้ถ่ายอะไรเลย ที่นี่มีไป Kave mall ของแจจุง แล้วก็ Tower Record ซื้ออัลบั้มมา 2 อัลบั้มแค่นั้น ละก็กลับเลย ฝนตกแล้วมันไม่มีอารมณ์อยากจะช็อปปิ้งอะไรเลยอ่ะ ขี้เกียจจะต้องมาหุบร่มกางร่ม จะเข้าร้านก็ต้องเอาร่มไปห่อพลาสติกอีก โอ่ยยย ไว้ค่อยมาวันหลัง
แน่นอนว่าเราคือติ่ง ต้องไปสถานที่ติ่งๆ 555555 ไป SMT Tokyo ชั้นล่างเป็นร้านอาหาร ชั้นบนขายของเล็กๆ น้อยๆ ของศิลปินค่ายเอสเอ็ม แต่มีของน้อยกว่า SUM ที่เกาหลีมาก
เดินกลับไปที่สถานี Shibuya
ลงที่สถานี Akasaka ทางออกที่ 1 เดินออกมาก็เจอเลย เป็นตึกกระจกยาวๆ
เข้าไปข้างใน ไหนๆ เป็นร้านอาหารแล้วก็สั่งอะไรมากินซักหน่อย
จิ้มไปมั่วๆ รสชาติใช้ได้เลยอร่อยดีอ่ะ กินได้นะ
กินเสร็จก็ขึ้นไปข้างบน
หล่อจังเลยยยย
ขึ้นไปก็ได้แต่ตะลึง คือมันไม่มีอะไรเลย มีของน้อยมากกกกกก ในความคิดเราคือมันน่าจะเหมือน SUM ที่เกาหลีไง
ชั้นดงบังของเรามีแค่นี้เอง -.- แล้วเคสที่อยากได้ก็ไม่มีรุ่นของเราอีก ฮื่อ
วิธีใช้คือสอดใบนี้เข้าเครื่องแล้วดึงออก ด้านหลังก็จะพิมพ์วันที่และเวลาที่บัตรจะหมดอายุด้วย
ส่วนเรื่องแผนที่รถไฟต่างๆในญี่ปุ่น เราใช้แอพ World Transit Maps แอพนี้ดีมากกกกกก คือมันดูได้ทุกสายทุกชนิดรถไฟเลยก็ว่าได้
เปิดเข้ามาก็จะเจอกับแผนที่รถไฟของประเทศญี่ปุ่น
เลือกภูมิภาคได้ด้วย
วิธีใช้ก็ง่ายๆเลย วันนี้เราเริ่มต้นด้วยการไปตลาดปลาTsukiji จะต้องไปลงที่สถานี Tsukijishijo
กดที่เครื่องหมายค้นหาแล้วใส่สถานีต้นทาง ในที่นี้สถานีต้นทางของเราคือสถานี Tawaramachi
จากนั้นก็กดที่เครื่องหมาย +
แล้วก็กดที่เครื่องหมายค้นหาอีกรอบ พิมพ์สถานีปลายทาง เสร็จแล้วก็กดที่เครื่องหมาย + เหมือนเดิม
เสร็จแล้วกดที่รูปรถไฟ
ก็จะมี 4 วิธีให้เราเลือกไป เราโอเควิธีไหนก็ไปตามนั้นเลย ใช้ง่ายมากๆ
พอถึงสถานีTsukijishijoแล้ว ไปที่ทางออก A1 ออกจากสถานีแล้วก็เลี้ยวขวา เดินมาเรื่อยๆ จะได้กลิ่นคาวปลาเลย 55555 แสดงว่าถึงแล้ว
เดินเข้ามาก็มาเจอกับร้านไข่หวานเสียบไม้ เห็นรีวิวเยอะเหมือนกันเลยลองซื้อมากินดู มีตั้งหลายแบบนะแต่ไม่รู้อะไรเป็นแบบไหน เลยเอาแบบธรรมดามา กัดเข้าไปคำแรกร้อนมากควันขึ้นเลย กินแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่แนวเราเลย หวานมากกก พะอืดพะอมกิน คือเราไม่ชอบกินไข่หวานๆ แบบนี้เลยอ่ะ มันหวานกว่าที่เราคิดไปหน่อย ในความคิดคือมีรสชาติเค็มๆแซมมาหน่อยไรงี้
เดินดูนู่นดูนี่ไปนิดหน่อย เดินวันฝนตกนี่มันไม่สนุกเลย ทางแคบแล้วต้องคอยมาหลบร่มกันอีก ร่มทิ่มตาอีก เฉอะแฉะอีก โอ๊ยยย สารพัด สรุปว่าไปที่อื่นดีกว่า
เดินกลับไปที่สถานี Tsukijishijo ที่ต่อไปที่เราจะไปคือ Apple Store
ออกทางออก A2 ออกมาปุ๊บหันขวาก็เจอ Apple Store เลย
เดินดูโน่นดูนี่ไปเรื่อยๆ จุดประสงค์ของเราคือมาซื้อ airpods จ้า ถูกกว่าไทยเยอะอยู่นะ ที่นี่ 16,800 เยน ประมาณ 4,900 บาท คือรอมาซื้อที่ญี่ปุ่นโดยเฉพาะเลยเนี่ย แล้วก็จะซื้อให้น้องอีกอันด้วย น้องก็ฝากซื้อของมาอีกสองสามอย่าง คิดค่าเสียหาย เกือบล้มละลายเลย 55555
ไปโปรแกรมต่อไปเลย ไปกินล็อบสเตอร์~~~~~~ จากแอปเปิ้ลสโตร์เดินไปไม่ไกล
ตรงงงงไปเรื่อยๆ เข้าซอยเล็กๆ ซ้ายมือตาม google map ไป แล้วก็จะเจอร้าน Luke's Lobster เห็นตามรีวิวนี่กว่าเขาจะได้กินกันต้องต่อแถวยาวเป็นกิโล สงสัยเพราะฝนตกคนเลยไม่มี เราก็โชคดีไป
ที่เราสั่งมาคือ Lobster roll (regular) อร่อยมากกก เนื้อนุ่ม หวาน ฉ่ำ ขนมปังนี่กรอบๆ นุ่มๆ บอกไม่ถูก แอบมีรสชาติเนยนิดๆ โดยรวมแล้วคืออร่อยมาก อยากซื้อกลับไปให้แม่กินเลย มีปู มีกุ้งอีกนะ แต่นี่อยากกินล็อบเตอร์ที่สุดละ
Lobster roll (regular) 980 เยน + tax 78 เยน = 1,058 เยน คุ้ม!
คือตอนนี้อิ่มมากแล้วมากๆเลยด้วย ไม่รู้เป็นไรเวลาอยู่นอกบ้านทีไรเราจะกินได้น้อยมาก ที่บ้านนี่เรียกได้ว่ากินไม่หยุดอ่ะ ออกนอกบ้านทีไรเป็นงี้ทุกที คือกว่าจะกินหมดนี่คือต้องรอให้ย่อยละค่อยกินต่อ 55555
พอกินเสร็จแล้วก็เดินไปTakeshita Street จากนี่เดินไปไม่ไกล ผ่านสถานี Harajuku มาแป๊บเดียวก็ถึงเลย
สถานี Harajuku สวยมากเลย
แล้วก็อีกนั่นแหละร่มคืออุปสรรคในการช็อปของเรา -.- แต่ด้วยความที่เราตั้งมั่นไว้ว่าจะต้องซื้อรองเท้าให้ได้เพราะคู่นี่ใส่อยู่นี่เน่ามากก เปียกแฉะไปหมด
ระหว่างทางเจอช็อปรองเท้าก็แวะดูมาเรื่อยๆ ไม่ถูกใจเลยซักที
เลยตกลงว่าจะไปดู New balance แล้วช็อปคืออยู่นู่นนนนนน ท้ายถนนเลย แต่ยังไงมันก็ต้องไป
เดินผ่านร้านเครปคือน่ากินมาก แต่นี่อิ่มจากล็อบเตอร์ยังไม่หาย ไว้ค่อยมากินอีกรอบ เดินผ่านร้านAngels Heart เห็นชานมไข่มุก ขอชิมหน่อยสิชานมไข่มุกญี่ปุ่นจะอร่อยมั้ย
เราว่าจืดไปหน่อย น้ำแข็งน้อยเลยไม่ค่อยเย็น
เดินเลาะไปเรื่อยๆ จนถึง New balance ได้เวลาเปลี่ยนคู่ใหม่แล้ววววว
เราได้มาคนละคู่กับน้อง เสียหายไปเยอะเลย -.-
ถุงใหญ่เลยทีเดียว
จากนั้นเดินกลับไปที่สถานี Harajuku เพื่อไป Shibuya ขึ้น JR สาย Yamanote ลงที่สถานีชิบูย่า สำหรับเส้นนี้ต้องใช้บัตร suica
จาก Harajuku ไป Shibuya ไม่ไกลเลย สถานีเดียวถึง -.- ใช้เวลา 3 นาทีแต่ด้วยความที่ไหนๆเราก็ซื้อบัตรsuicaมาแล้วก็ใช้ให้มันคุ้มๆ
ฝนก็ยังไม่หยุดเลยนะ ไม่ค่อยได้ถ่ายอะไรเลย ที่นี่มีไป Kave mall ของแจจุง แล้วก็ Tower Record ซื้ออัลบั้มมา 2 อัลบั้มแค่นั้น ละก็กลับเลย ฝนตกแล้วมันไม่มีอารมณ์อยากจะช็อปปิ้งอะไรเลยอ่ะ ขี้เกียจจะต้องมาหุบร่มกางร่ม จะเข้าร้านก็ต้องเอาร่มไปห่อพลาสติกอีก โอ่ยยย ไว้ค่อยมาวันหลัง
แน่นอนว่าเราคือติ่ง ต้องไปสถานที่ติ่งๆ 555555 ไป SMT Tokyo ชั้นล่างเป็นร้านอาหาร ชั้นบนขายของเล็กๆ น้อยๆ ของศิลปินค่ายเอสเอ็ม แต่มีของน้อยกว่า SUM ที่เกาหลีมาก
เดินกลับไปที่สถานี Shibuya
ลงที่สถานี Akasaka ทางออกที่ 1 เดินออกมาก็เจอเลย เป็นตึกกระจกยาวๆ
เข้าไปข้างใน ไหนๆ เป็นร้านอาหารแล้วก็สั่งอะไรมากินซักหน่อย
จิ้มไปมั่วๆ รสชาติใช้ได้เลยอร่อยดีอ่ะ กินได้นะ
กินเสร็จก็ขึ้นไปข้างบน
หล่อจังเลยยยย
ขึ้นไปก็ได้แต่ตะลึง คือมันไม่มีอะไรเลย มีของน้อยมากกกกกก ในความคิดเราคือมันน่าจะเหมือน SUM ที่เกาหลีไง
ชั้นดงบังของเรามีแค่นี้เอง -.- แล้วเคสที่อยากได้ก็ไม่มีรุ่นของเราอีก ฮื่อ
จบ เดินออก
จริงๆ ตามแพลนแล้วเราจะต้องไป Tokyo tower แต่เนื่องจากเราดูชื่อสถานีผิด ที่จริงต้องลงที่สถานี Akabanebashi แต่เราดันไปลงสถานี Akabane ลืม bashi จ้า 555555 คือแบบสถานีนี้คือไกลอ่ะ มีความรู้สึกว่านั่งรถไฟใต้ดินนานมาก
ตอนแรกเราก็ไม่คิดอะไรนะ พอลงสถานีAkabane ก็เปิด google map ดูว่าจะเดินไปทางไหน แล้วก็เอ๊ะ ทำไมมันบอกว่าถ้าเดินนี่คือ 3ชั่วโมงล่ะ มันไกลขนาดนั้นเลยหรอ เท่าที่เราดู street view มามันใกล้นะ ก็คิดไปว่าหรือใต้ดินไม่มีสัญญาณมันอาจจะค้างอยู่สถานีก่อนหน้านี้หรือเปล่า เลยปิดเครื่องละเปิดใหม่ เปิด google map
สรุปก็เหมือนเดิมเลยต้องเดินไปอีก 3 ชั่วโมง ตอนนั้นมึนอ่ะ คิดอะไรไม่ออก มันนอกแผนเราหมดเลย ไม่ได้เตรียมใจจะมาหลง 55555555 เลยเปิดแพลนเที่ยวที่เราทำมาอ่านดีๆ ก็ถึงบางอ้อมันต้องลงที่สถานี akabanebashi เธอมาผิดที่!!!
ใจเสียไปแล้วจะกลับยังไง สองทุ่มกว่าแล้วด้วย ตั้งสติ เอาใหม่ หาทางกลับโรงแรม มันบอกให้ขึ้น JR Keihin ไปลง Ueno เราก็เอาวะ ลองดู ขากลับนี่รู้สึกเร็วกว่าขามามาก แป๊บเดียวถึง Ueno เลย ไม่ค่อยจอดสถานีรายทางด้วย ขามานี่จอดเกือบทุกสถานี พอถึงอุเอโนะนี่โล่งใจละ กลับโรงแรมได้แน่นอน 5555
เอาของไปเก็บที่โรงแรมแล้วออกมาดองกี้หาไรดูไปเรื่อยเปื่อย เลยได้ชานมแบบใสมา กินพอแก้อาการอยากชาเย็นได้ เราเป็นคนติดชาเย็นมาก ><
ได้ไอติมที่เซเว่นมา อร่อยมากอีกแล้ว รู้สึกถึงรสนมเลย นมเข้มข้นจริงๆ
จบ Day 3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น